ความเป็นมา
สืบเนื่องมาจาก มหาวิทยาลัยรามคาแหง มีโครงการที่จะจัดตั้งสาขาวิทยบริการ เพิ่มขึ้นในส่วนภูมิภาคเพื่อให้บริการทางการศึกษาแก่ประชาชนให้ครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัด เพื่อให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสได้รับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาโดยเท่าเทียมกันตามปรัชญาของมหาวิทยาลัย จึงได้ประสานมาทางสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษเพื่อขอความร่วมมือในการจัดหาที่ดินพร้อมทั้ง ก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราว และสิ่งสาธารณูปโภคที่จาเป็น เพื่อให้สามารถรับนักศึกษารุ่นแรกได้ภายในปีการศึกษา 2542 สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้นาเรื่องดังกล่าวเข้าปรึกษาหารือในสภา ฯในคราวประชุมสมัยสามัญ สมัยที่สอง ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2542 สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษได้มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาและได้แต่งตั้งคณะทำงานไปศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประกอบด้วยกรรมการ 7 ท่านดังต่อไปนี้
1. นายปวีณ แซ่จึง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ 2. นายศักดิ์ชาย บุญเย็น สมาชิกสภาองค์การ ฯ เขตอำเภอบึงบูรพ์ 3. นายกล่าคาน ปาทาน สมาชิกสภาองค์การ ฯ เขตอำเภอเมือง 4. นายวีระชัย จักรวรรณพร สมาชิกสภาองค์การ ฯ เขตอำเภอยางชุมน้อย 5. นายธีระชาติ รุ่งวรานนท์ สมาชิกสภาองค์การ ฯ เขออำเภอภูสิงห์ 6. นางกรุณา ทานกวีวงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ 7. นายสุรชัย ยิ้มเกิด หัวหน้าส่วนอำนวยการ
ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวทางมหาวิทยาลัยได้ส่ง อาจารย์ วิเชียร ชื่นชอบ ผู้ช่วยอธิการบดีมาเป็นผู้ประสานงานและชี้แจง โครงการ แผนงานในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสู่ภูมิภาค ซึ่งทราบว่าในปีการศึกษานี้ทางมหาวิทยาลัยมีแผนที่จะจัดตั้งสาขาวิทยบริการ เพิ่มขึ้นเพียง 4 สาขา และมีหลายจังหวัดได้เสนอตัวขอให้ไปจัดตั้งในเขตจังหวัดของตน อาทิ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นต้น จังหวัดศรีสะเกษเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาถึงความพร้อมในด้านต่าง ๆ อาทิ เช่น สถานที่ตั้งของที่ดิน ที่จะจัดตั้งมหาวิทยาลัย ทางคมนาคม และสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ได้แก่ ประปา ไฟฟ้า และโทรศัพท์
ประกอบด้วย หากจังหวัดใด มีความพร้อมมากที่สุดก็มีโอกาสที่จะได้รับเลือกให้เป็นที่จัดตั้งมหาวิทยาลัยมากขึ้น
องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ได้ตระหนักถึงปัญหาทางด้านการศึกษาของประชาชนที่จัดว่าอยู่ในระดับต่ากว่า จังหวัดอื่น ๆ อันเนื่องจากไม่มีสถาบันในระดับอุดมศึกษาที่จะรับนักศึกษาเข้าเรียนในระดับปริญญา หากพลาดโอกาสการจัดตั้ง มหาวิทยาลัยในครั้งนี้ ประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษก็จะด้อยโอกาสทางการศึกษาต่อไปอีกนานหลายปี ดังนั้น เมื่อคณะทางาน ได้ศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยรามคาแหงแล้วก็เสนอเข้าสู่สภา ฯ พิจารณาในคราวประชุมสภาองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด ศรีสะเกษ สมัยสามัญ ประจาปี 2542 ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2542 สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ฯ ได้มีมติ ความเห็นชอบยกที่ดินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ บริเวณศูนย์ส่งเสริมอาชีพทุ่งขุมทรัพย์ ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เนื้อที่จำนวน 275 ไร่ มอบให้เป็นสถานที่จัดตั้งมหาวิทยาลัยรามคาแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ และได้ รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษทราบ เพื่อดาเนินการต่อไป
ทางด้านจังหวัดศรีสะเกษ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้ง มหาวิทยาลัยรามคาแหง ฯ ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2542 และประกาศเพิ่มเติม ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2542 และได้ประชุมคณะกรรมการ เตรียมการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2542 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ศรีสะเกษ คณะกรรมการทุกฝ่ายมีมติเห็นชอบให้การสนับสนุนการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ต่อมาคณะกรรมการฝ่าย จัดหาทุนก่อสร้างได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการ ฯ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2542 เวลา 10.30 น. ณศาลาประชาคมจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายบุญสอด วิเชียรสรรค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นประธานฝ่ายบ้านเมือง มีพระคุณเจ้า พระราชวรรณเวที เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้เชิญประธานกรรมการองค์การบริหารส่วนตำบล และปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลทั่วทั้งจังหวัด จานวน 184 ตำบล เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือด้วย ที่ประชุมมีมติให้ร่วมกันจัดหาทุนก่อสร้าง อาคารเรียนและสิ่งสาธารณูปโภคที่จาเป็นไว้หลายแนวทาง เช่น ขอเงินอุดหนุนจากองค์การบริหารส่วนตาบลทุกตำบล ขอบริจาคจาก โรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั้งจังหวัด ขอรับบริจาคเงินหรือวัสดุจากพ่อค้าประชาชน องค์กรเอกชน หน่วยราชการ องค์การ
รัฐวิสาหกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่น และจัดผ้าป่าเพื่อการศึกษา เป็นต้น ในฝ่ายขององค์การบริหารส่วนตำบล ได้เสนอความเห็นว่า จะให้การสนับสนุนโดยตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนให้ตำบลละ 50,000 บาท ซึ่งหากได้เงินตามจานวนนี้ การก่อสร้างก็คงจะไม่มีปัญหาและจะสามารถก่อสร้างได้อย่างสมบูรณ์มากกว่านี้ นอกจากนี้ยังมีท่านผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคเงิน และวัสดุก่อสร้างสมทบการก่อสร้างในการนี้ด้วย |